MikroTik คือผู้ผลิตอุปกรณ์ด้าน Computer Network ต่างๆ เช่น Router, Switch, Access Point ฯลฯ โดยอุปกรณ์ที่มีชื่อเสียงและโดดเด่นที่สุดคือ Router เนื่องจากเป็น Router ที่รวมเอาความสามารถต่างๆ ไว้มากมาย เช่น
– Router ที่มีคุณสมบัติพื้นฐานทั่วไป เช่น PPoE Client, Ethernet, NAT หรือ Port Forward
– Wireless Hotspot Server ติดตั้งระบบ Authenticate เพื่อพิสูจน์สิทธิ์ในการเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ตของผู้ใช้แต่ละราย
– Bandwidth Management หรือ QoS สามารถกำหนดความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ ของผู้ใช้แต่ละราย
– Load Balance รวมความเร็วอินเตอร์เน็ตหลายๆเส้นเข้าด้วยกัน และหรือใช้สำรองลิงก์ เพื่อเส้นใดเส้นหนึ่งมรปัญหา
– L7 Firewall สามารถบล็อก Application ต่างๆ ที่เรียกใช้งานผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เช่น ไม่ให้เล่น Skype, Facebook, Camfrog ฯลฯ
– VPN Server สร้างการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายที่อยู่ต่างสาขาผ่านทางท่อเสมือนที่เรียกว่า Tunnel
– Proxy Server ช่วยเพิ่มความเร็วในการเรียกหน้าเว็บไซต์ต่างๆ โดยจัดเก็บข้อมูลของเว็บไซต์ที่เคยมีการเรียกใช้

โดย Router ของ MikroTik จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของ Hardware ที่เรียกว่า Router Board และส่วนของ Software ที่เรียกว่า Router OS
 – Router Board เป็นส่วนของ Hardware ที่เป็นแผงวงจร Mainboard และมี CPU, Ram, Chipset ต่างๆมาประกอบรวมกัน บางรุ่นสามารถเพิ่ม Memory Card เพื่อทำหน้าที่เก็บข้อมูลต่างๆ เช่น Logs หรือ Proxy Cache โดยจะใช้ RouterOS เป็นระบบปฎิบัติการที่คอยควบคุมการทำงาน
– RouterOS เป็นส่วนของ Software ที่พัฒนามาจากพื้นฐานของ Linux โดยทำหน้าที่เป็นระบบปฎิบัติการให้กับ Router Board แต่สามารถนำ RouterOS ไปติดตั้งบนเครื่อง Server ได้โดยแบ่ง RouterOS ออกเป็น Level แต่ละระดับ ส่วนใหญ่ที่ติดตั้งใน Router จะเริ่มที่ LV4  LV5  LV6  โดยหลักๆ แต่ละ LV แตกต่างหลักๆ คือ

ข้อดี-ข้อเสียระหว่างการใช้ Router Board กับเครื่อง Server
– Router Board ติดตั้งง่ายและประหยัดไฟกว่า Server
– Hardware และ Software ที่ MikroTik ออกแบบและนำมาใช้กับ Router Board มีความเสถียรและทนทาน
– Router Board ประหยัดกว่าการใช้ Server เนื่องจากมีทั้ง Hardware และ Software มาพร้อมกัน
– Router Board มีปัญหาส่งซ่อมเราสามารถนำ Config เก่ากลับคืนมาใช้ได้